ตถตา

ตถตา

บทความที่ได้รับความนิยม

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วิถีปฏิบัติของพระโพธิสัตว์ ๓๗ ประการ


ขอนอบน้อมแด่พระอวโลกิเตศวร
ท่านเห็นสรรพสิ่งไม่มาและไม่ไป
กระนั้นท่านยังขวนขวาย
เพื่อประโยชน์ของสรรพสัตว์อย่างแน่วแน่
ข้าแด่ครูผู้ยิ่งใหญ่และเทพผู้พิทักษ์เชนเรสิก
ข้าขอคารวะแด่ท่านด้วยกายวาจา ใจ

ข้าแต่พระสัมมาสัมพุทธะทั้งปวง
ผู้เป็นแหล่งกำเนิดของประโยชน์และความสุข
อันเกิดจากการปฏิบัติธรรมอย่างจริงแท้
ซึ่งต้องอาศัยความรู้ว่าจะปฏิบัติอย่างไร
ณ บัดนี้ ข้าจะอธิบายวิถีปฏิบัติต่าง ๆ ของพระโพธิสัตว์




บัดนี้เธอได้รับกายมนุษย์อันล้ำค่า
เสมือนนาวาวิเศษที่หาได้ยาก
พึงเงี่ยหูฟังธรรม ตริตรองใคร่ครวญ
และเจริญสมาธิอยู่อย่างหมั่นเพียรทั้งกลางวันและกลางคืน
เพื่อปลดปล่อยตัวเองและผู้อื่นให้เป็นอิสระจากสังสารวัฏ
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๒.
ความรักต่อญาติมิตรไหลวนเหมือนน้ำ
ความเกลียดต่อศัตรูเผารนเหมือนไฟ
เพราะม่านมืดอวิชชาบังไว้
เราแยกไม่ออกว่าอะไรควรรับ อะไรควรปฏิเสธ
พึงละเรือนเสียเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๓.
พึงละทิ้งสถานที่อันไม่เอื้ออำนวย
ทุกข์ใจจะค่อย ๆ คลายลง
เนื่องเพราะไม่ถูกดึงออกนอกทาง
กุศลกรรมจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ
เมื่อจิตแจ่มใส ศรัทธาต่อพระธรรมก็ก่อเกิด
พึงแสวงหาความวิเวกเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๔.
มิตรและญาติที่คุ้นเคยจะจากพราก
ทรัพย์ที่หามาด้วยความเหนื่อยยากจะจากพราก
วิญญาณผู้เป็นแขกจะต้องลาจากจากเรือนรับแขกคือกายนี้
พึงปล่อยวางชีวิตนี้เสียเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๕.
เมื่อมิตรภาพกับใครทำให้โลภ โกรธ หลง งอกงาม
ทำให้คุณภาพของการฟังธรรม ตรึกตรองธรรม
และการภาวนาลดลง
ทั้งยังทำลายซึ่งความเมตตากรุณา
พึงละมิตรภาพเช่นนั้นเสียเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๖.
เมื่อพึงพาใครแล้วอกุศลกรรมลดลง
และกุศลกรรมเพิ่มขึ้นดังพระจันทร์ข้างขึ้น
พึงเทิดทูนเพื่อนทางธรรมคนนั้นยิ่งกว่ากายของตน
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๗.
ตนยังถูกขังอยู่ในเรือนจำแห่งสังสารวัฏ
แล้วโลกียเทพจะคุ้มครองใครได้
ดังนั้นพึงพึ่งพระรัตนตรัยซึ่งไม่ทรยศต่อเธอเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๘.
ทุกข์ในภูมิต่ำทั้งหลายยากนักจะหลีกเลี่ยงได้
พระพุทธองค์สอนว่านี่เป็นผลจากอกุศลกรรม
ดังนั้นพึงลดทอนอศุกลกรรมเถิด
แม้จะต้องสละชีวิต
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๙.
ทุกข์ในสามโลกนั้นเปรียบเสมือนน้ำค้างบนใบหญ้า
ไม่ช้าก็จะเหือดแห้งไป
พึงขวนขวายต่อภาวะการหลุดพ้นอันประเสริฐ
ซึ่งไม่ไหวเอนเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๑๐.
นับแต่ก่อนจุดเริ่มต้นแห่งกาลเวลา
มารดาทั้งมวลได้เลี้ยงดูฟูมฟักเธอมา
ถ้าท่านเหล่านั้นยังทุกข์ในบัดนี้
ความสุขของเธอจะมีความหมายอะไร
ดังนั้นเพื่อปลดปล่อยสรรพสัตว์อันไม่จำกัด
เธอพึงบ่มเพาะโพธิจิตให้งอกงามเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๑๑.
ทุกข์ทั้งปวงเกิดขึ้นเพราะปรารถนาจะหาความสุขใส่ตน
พระสัมมาสัมพุทธะทั้งมวลเกิดขึ้นเพื่อหวังประโยชน์ผู้อื่น
ดังนั้น พึงแลกความสุขของเธอกับความทุกข์ของผู้อื่นเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๑๒.
แม้ว่าคนโลภจะขโมยทรัพย์ทั้งมวลของเธอทั้งหมด
หรือยุให้คนอื่นขโมย
พึงอุทิศร่างกายและทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้เขาผู้นั้นเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๑๓.
ถ้ามีคนตัดหัวของเธอ
ถึงเธอจะไม่ได้ทำผิดแม้น้อย
อาศัยอำนาจของกรุณา
พึงเอาความผิดของเขามาเป็นของตน
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๑๔.
แม้มีคนตามกล่าวร้ายเธอชั่วพันล้านชาติ
เธอพึงเมตตาตอบแทน
ด้วยการยกย่องคุณความดีของเขาด้วยใจจริงเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๑๕.
แม้จะมีคนนำความผิดที่เธอปิดบังไว้
มาเปิดเผยต่อสาธารณชน
และใช้ความผิดนั้นเยาะเย้ยถากถางเธอ
เธอพึงเห็นเขาเป็นกัลยาณมิตร
และโค้งคารวะเขาด้วยความเคารพเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์

๑๖
ถ้าคนที่เธอรักปานลูกในไส้ถือว่าเธอเป็นศัตรู
เธอพึงรักเขาผู้นั้นยิ่งกว่าเดิม
ดังมารดาปฏิบัติต่อลูกตนเองที่เจ็บป่วยเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์


๑๗
แม้คนที่เสมอกันหรือด้อยกว่าเธอ
ลุกขึ้นมาดูหมิ่นเหยียดหยามเธอ
ด้วยความยโสโอหัง
เธอพึงวางเขาไว้เหนือเศียรเกล้า
ด้วยความเคารพดังที่เธอเคารพครูเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์

๑๘
แม้จะขัดสนจนยากและถูกดูหมิ่นอยู่เสมอ
แม้จะแสนทุกข์ทรมานเพราะป่วยหนัก
และถูกผีร้ายเข้าสิงสู่
เธอยังคงน้อมรับทุกข์และอกุศลของสรรพสัตว์
มาเป็นของตนอย่างไม่ย่อท้อ
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์

๑๙
แม้จะมีชื่อเสียงและโดดเด่น
เป็นที่ค้อมคารวะของผู้คน
แม้จะร่ำรวยดังเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง
เธอพึงเห็นโลกวิจิตรนี้ไร้แก่นสารสาระ
และอยู่อย่างปราศจากความยโสโอ้อวดเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์

๒๐
ถ้าเธอไม่สามารถสยบศัตรูคือความโกรธของตนเองได้
การต่อสู้กับศัตรูภายนอกก็จะยิ่งทำให้เกิดศัตรูเพิ่มขึ้น
ดังนั้นเธอพึงฝึกจิตของตนเองให้เชื่อง
ด้วยกองทัพเมตตาและการุณย์เถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์

๒๑
กามสุขทั้งหลายเหมือนน้ำเกลือ
ยิ่งดื่มมากยิ่งกระหายมาก
ดังนั้นถ้าความติดยึด(ในรสของกาม)ของเธอถูกปลุกขึ้นเมื่อใด
พึงปล่อยวางในทันทีเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์

๒๒
สรรพสิ่งที่เรารับรู้คือจิตของเราเอง
และจิตเดิมแท้นั้นอยู่เหมือนอาการของจิตทั้งปวง
รู้เช่นนี้แล้ว ดำรงอยู่อย่างอิสระ
จากการยึดถือสัญลักษณ์ทั้งปวงว่าเป็นเขาเป็นเรา
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์

๒๓
เมื่อพบสิ่งต้องใจ
ดังเห็นสายรุ้งในฤดูร้อน
พึงไม่เห็นว่านั่นเป็นของจริง
และปล่อยวางการยึดมั่นในสิ่งนั้นเสีย
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๒๔
ทุกข์ทั้งปวงเหมือนดั่งความตายของลูกรักในความฝัน
ถ้าถือว่าฝันนั้นเป็นของจริง เราก็จะทุกข์เปล่าๆ
ดังนั้น เมื่อพบสิ่งไม่พึงพอใจ
ให้เห็นเสียว่านั่นคือมายา
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๒๕
ผู้มุ่งรู้แจ้งย่อมเต็มใจสละแม้ร่างกายตน
จะเอ่ยไปใยถึงสิ่งของภายนอก
ดังนั้น พึงให้โดยไม่หวังรางวัลหรือผลประโยชน์เถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์

๒๖
ถ้าขาดวินัยละเมิดศีลแล้วเสียประโยชน์ตน
ที่หวังประโยชน์ผู้อื่นก็เป็นเพียงเรื่องตลก
ดังนั้นพึงรักษาวินัยจำเริญศีลโดยไม่หวังโลกิยผลเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๒๗
สำหรับโพธิสัตว์ผู้แสวงหาอริยทรัพย์
คนที่ทำร้ายเราทุกคนคือขุมทรัพย์
ดังนั้นพึงเจริญขันติธรรม
โดยปราศจากความขุ่นข้องใด ๆ ทุกเมื่อเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๒๘
ถ้าพระสาวกและพระปัจเจกพุทธ์
ปฏิบัตธรรมเพื่อหวังประโยชน์ตนเท่านั้น
เธอพึงขยายน้ำพุแห่งกุศลกรรมทั้งปวงออกไป
ด้วยวิริยภาพอย่างขมีขมัน
ดังรีบขวนขวายดับไฟที่กำลังไหม้บนหัวตนเองเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๒๙
วิปัสสนาที่กอปร์ด้วยสมถะอย่างเต็มเปี่ยม
ย่อมชนะทุกข์ทั้งปวงได้สิ้นเชิง
เมื่อรู้เช่นนั้นแล้ว
พึงเจริญสมาธิภาวนาให้ไปพ้นอรูปฌาน๔เถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๓๐
เจริญบารมีทั้ง๕ ข้อต้นโดยไม่เจริญปัญญา
ย่อมก้าวไม่ถึงการรู้แจ้งที่สมบูรณ์
ดังนั้นพึงเจริญปัญญาที่ไปพ้นสมมติบัญญัติในโลกสาม
ด้วยอุปายะอันประเสริฐเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์

๓๑
ถ้าเธอไม่วิเคราะห์ความผิดพลาดของตนเอง
เธออาจจะประพฤติอธรรมขณะวางท่าว่าปฏิบัติธรรม
ดังนั้นพึงวิเคราะห์ความผิดพลาดของตนเองอยู่เสมอ
และละวางเสียให้ได้เถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๓๒
เพราะพบกับความทุกข์
เธอจึงนินทาว่าร้ายพระโพธิสัตว์
ตัวเธอเองย่อมเสื่อมลง
ดังนั้นพึงอย่าตำหนิ
ผู้ก้าวอยู่แล้วบนหนทางที่ยิ่งใหญ่
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๓๓
เพราะอยากได้ลาภและการปรนนิบัติ
จึงนำไปสู่การโต้แย้งกัน
และทำให้การฟังธรรม ใคร่ครวญธรรม
และจำเริญสมาธิภาวนาเสื่อมลง
ดังนั้นจงละวางความยึดมั่นในหมู่คณะทางโลก
ญาติมิตร และผู้อุปถากเสียเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์


๓๔
ถ้อยคำหยาบคายย่อมรบกวนจิตผู้อื่น
และสั่นคลอนข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
ดังนั้น พึงละถ้อยคำหยาบคาย
และไม่ระรื่นหูต่อผู้อื่นเสีย
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๓๕
เมื่อเธอเคยชินต่อความทุกข์
การแก้ทุกข์ด้วยธรรมคู่อริก็ยากขึ้น
ดังนั้น พึงใช้อาวุธสำหรับเยียวยา
คือสติและการใคร่ครวญ
กำจัดความทุกข์เช่นความยึดมั่นเสีย
อย่างเด็ดขาดทันที่มีมันปรากฏเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๓๖
กล่าวโดยสรุป ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรอยู่
พึงสำรวจสภาพจิตของตนเองอยู่เสมอ
หมั่นทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นอย่างไม่ท้อถอย
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์
๓๗
เมื่อปฏิบัติเพื่อรู้แจ้งดังที่กล่าวมานี้
ด้วยปัญญาอันอิสระจากสมมติบัญญัติของสามโลกแล้ว
พึงอุทิศส่วนกุศลที่เกิดขึ้น
เพื่อขจัดทุกข์ของมวลสัตว์ไม่มีประมาณเถิด
นี้คือข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

for ever

for ever